ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name) Peronosclerospora maydis (Racib.) C.G.Shaw
ชื่อพ้อง (Synonym) Peronospora maydis, Sclerospora maydis
Phylum Oomycota
Class Peronosporomycetes
Order Peronosporales
Family Perosporaceae
Genus Peronosclerospora
Species maydis
Race/Pathover
ชื่อโรคภาษาไทย (Disease name, Thai) โรคราน้ำค้างข้าวโพด
ชื่อโรคภาษาอังกฤษ (Disease name) downy mildew of maize
อาการระยะแรก Local symptoms เมื่อข้าวโพดยังเป็นต้นกล้า จะเกิดจุดสีขาวหรือสีเหลืองอ่อนบนใบเลี้ยง และใบจริงสองสามใบแรก ต่อจากนั้นจุดนี้จะขยายเป็นทางสีขาวลามไปไปยังฐานใบ
อาการระยะที่สอง Systemic symptonms บนใบที่ผลิตออกมาใหม่ จะมีทางสีขาว เขียวอ่อนหรือเหลืองอ่อน เกิดขึ้นจากฐานใบถึงปลายใบ ทางดังกล่าวอาจยาวติดต่อกันไปหรือขาดเป็นช่วง บางครั้งอาจพบลักษณะอาการเป็นปื้นสีขาวจากฐานใบไปยังปลายใบ ข้าวโพดที่เป็นโรคในระยะนี้ต้นกล้าจะแห้งตายในที่สุด โดยเฉพาะพันธุ์ที่อ่อนแอต่อโรคของต้นที่สามารถออกดอกได้แต่ก็จะไม่มีฝักหรือมีฝักก็ไม่สมบูรณ์ มีเมล็ดจำนวนน้อยหรือไม่มีเลย ลักษณะอาการอื่นๆ ได้แก่ ยอดและดอกแตกออกเป็นพุ่ม ก้านฝักมีความยาวมากกว่าปกติ แต่จะไม่สมบูรณ์ เช่น มีเมล็ดจำนวนน้อยหรือไม่มีเลย
พืชอาศัยหลัก (Main host)
ข้าวโพด : corn, maize (Zea mays)
พืชอาศัยอื่นๆ (Other host)
None Data
ความชื้นของบรรยากาศค่อนข้างสูง โดยเฉพาะบริเวณที่มีน้ำค้าง อากาศเย็น และฝนตกชุกอย่างไรก็ตามแม้ว่าฝนจะตกชุกแต่ดินไม่สามารถเก็บน้ำไว้ได้ ทำให้ความชื้นที่สูงเกิดในระยะเวลาสั้นๆ โรคก็เกิดน้อย อุณหภูมิของบรรยากาศ เชื้อโรคนี้จะเจริญได้ดีในที่อุณหภูมิค่อนข้างเย็น คือประมาณ 20-26 oc
โรคจะเริ่มระบาดตอนต้นฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมไปจนสิ้นฤดูฝน เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล อุณหภูมิ 20-26 oc และความชื้นสูงเหมาะสมต่อการเจริญของเชื้อราชนิดนี้มาก โดยสามารถพบเชื้อโรคสร้างสปอร์เป็นผงสี
-หลีกเลี่ยงการปลูกก่อนฝนตกชุกหรือปลูกก่อนฤดูฝน ซึ่งโดยปกติพบว่าโรคนี้มักระบาดในช่วงฤดูฝนกับข้าวโพดที่มีอายุประมาณ 1-3 สัปดาห์จะอ่อนแอต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคมาก แต่ถ้าต้นข้าวโพดมีอายุมากกว่า 1 เดือน พบว่ามีอัตราการเกิดโรคน้อย
-กำจัดพืชอาศัย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ลดการอยู่ข้ามฤดูของเชื้อสาเหตุได้ พบว่า หญ้าเจ้าชู้ ข้าวฟ่าง หญ้าพง และอ้อย แสดงอาการโรคราน้ำค้าง สปอร์ที่สร้างบนพืชทั้งสี่สามารถทำให้เกิดโรคดังกล่าวแก่ข้าวโพดได้ หรือข้าวโพดที่หลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวหรือต้นอ่อนที่งอกใหม่จากเมล็ดที่ร่วงหล่นในแปลง เชื้อสาเหตุของโรคก็สามารถอยู่ข้ามฤดูได้เช่นกัน
-หลีกเลี่ยงการใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่มีโรคระบาดมาทำพันธุ์ ใช้เมล็ดพันธุ์ที่ตากแห้งสนิท (ความชื้นประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์) มาทำพันธุ์ เพื่อป้องกันเชื้อที่ติดมากับเมล็ด เมล็ดข้าวโพดที่ได้จากต้นที่เป็นโรคเมื่อยังมีความชื้นในเมล็ดสูง(15-20เปอร์เซ็นต์) จะสามารถถ่ายทอดเชื้อโรคได้
-ใช้พันธุ์ต้านทาน ปัจจุบันมีข้าวโพดทั้งสายพันธุ์ลูกผสมและสายพันธุ์แท้เป็น จำนวนมาก มีความต้านทานเชื้อสาเหตุโรคราน้ำค้างได้ดีและให้ผลผลิตสูง เช่น พันธุ์นครสวรรค์ 1 นครสวรรค์ 72 สุวรรณ 1 สุวรรณ 5 สุวรรณ 3601
-ใช้สารเคมี เมตาแลกซิล (Apron 35 SD) ในอัตรา 7 กรัม ต่อน้ำหนักเมล็ด1 กิโลกรัม คลุกเมล็ดก่อนปลูก สามารถป้องกันกำจัดโรคนี้ได้ แต่ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี และอุทัยธานี ไม่สามารถใช้สารนี้ป้องกันกำจัดโรคได้
[1] CIMMYT. 2013. Welcome to Maize Doctor. URL http://maizedoctor.cimmyt.org/index.php
[2] Crop Protection Compendium. 2011. URL http://www.cabi.org/cpc/default.aspx?site=161&page=4063
[3] MAF Biosecurity New Zealand. 2005. Maize pest. URL http://www.biosecurity.govt.nz/pest/search
[4] Nasir, M., D.B. Letham, S.J. Singh and P.J. Wilcock. 1998. Maize diseases of Australia and the world. Australian Quarantine and Inspection Service, Australia.
[5] PQR-EPPO. 2007. European and mediterranean plant protection organization: PQR version 4.6 – EPPO plant qurantine data retrieval system. URL http://www.eppo.org/DATABASES/pqr/pqr.htm
Presence
☐ Present: in all parts of the areaAbsence
☐ Absent: no pest recordsTransience
☐ Transient: non-actionable